16 December 2024
ในมุมมองแรก การดำเนินธุรกิจนำเข้าสินค้าต้องเผชิญกับความท้าทายทางภาษีที่หลากหลาย เริ่มตั้งแต่การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกที่ผู้ประกอบการต้องดำเนินการ หากมียอดขายเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี จะต้องจดทะเบียน ภ.พ.20 เพื่อเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
การคำนวณภาษีสำหรับสินค้านำเข้ามีความละเอียดอ่อนและต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง โดยทั่วไปแล้ว ผู้นำเข้าจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 7% ของมูลค่าสินค้า นอกจากนี้ ยังมีอากรขาเข้าซึ่งแตกต่างกันไปตามประเภทของสินค้า ซึ่งต้องคำนวณและชำระควบคู่กันไป
เอกสารถือเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจนำเข้า ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเก็บรักษาเอกสารสำคัญอย่างครบถ้วน ได้แก่ ใบขนสินค้า ใบกำกับภาษี บัญชีราคาสินค้า และเอกสารรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า เอกสารเหล่านี้จะใช้ประกอบการยื่นแบบแสดงรายการภาษี ภ.พ.30 ซึ่งต้องยื่นเป็นประจำทุกเดือน
การยื่นแบบแสดงรายการภาษีเป็นหน้าที่สำคัญที่ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติอย่างถูกต้องและตรงเวลา การจัดทำบัญชีที่ละเอียดและชัดเจนจะช่วยอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบและลดความเสี่ยงจากการถูกประเมินภาษีเพิ่มเติม
นอกเหนือจากภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ยังมีภาษีประเภทอื่นที่เกี่ยวข้อง อาทิ ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีหัก ณ ที่จ่ายสำหรับการทำธุรกรรมกับต่างประเทศ ซึ่งล้วนมีความสำคัญและต้องคำนึงถึงอย่างรอบคอบ
ด้วยความซับซ้อนของระบบภาษีและกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ผู้ประกอบการธุรกิจนำเข้าสินค้าจึงควรศึกษาและทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง หรือหากจำเป็นควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น
กรมสรรพากรมิได้มีบทบาทเพียงการจัดเก็บภาษีเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นหน่วยงานที่อำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส และเป็นไปตามกฎหมาย
✓ เช่าตามพื้นที่ใช้จริง
✓ มีพนักงานคลัง
✓ มีรถยกพาเลท
✓ มีรถขนส่ง
✓ ระบบรักษาความปลอดภัย
ติดต่อเราทาง socail media
tongsuen warehouse and logistics